“ ไอนุ ” เป็นชื่อชนเก่าแก่แห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น โดยมีในภาษาญี่ปุ่นคำคำว่า เอโนะ ที่หมายความว่า
มนุษย์ มีบางคนเชื่อว่า พวกเขาอาศัยอยู่ที่มานานเป็นหมื่นปีก่อนที่จะมีมนุษย์อื่น ๆ บนประเทศญี่ปุ่นด้วยซ้ำโดยเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากดินแดนอันติดต่อกับญี่ปุ่น นั่นคือ รัสเซีย และอลาสก้า อันเป็นดินแดนหนาวเหน็บที่เต็มไปด้วยธารน้ำแข็ง ที่ตั้งของชนเผ่าไอนุจะอยู่บริเวณเกาะฮอกไกโด เกาะซาฮาลิน และเกาะคูริล ซึ่งเป็นเขตติดต่อระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศรัสเซีย ปัจจุบันมีประชากรราว 24,000 คน
ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นผู้นำด้านต่าง ๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และการศึกษา แต่กลับเป็นที่น่าแปลกใจว่ายังมีชนเผ่าที่ล้าหลังและยากจนอย่างชนเผ่าไอนุอยู่ พวกเขามีความเชื่อและความศรัทธาในสิ่งลี้ลับโดยมีการนับถือผี อีกทั้งเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มที่นำมาสวมใส่ก็ล้วนแล้วแต่ทำมาจากหนังสัตว์และการทอจากเส้นใยพืชทั้งสิ้น ชาวชนเผ่าไอนุจะมีรูปร่างสูงใหญ่กำยำล่ำสันกว่าชาวญี่ปุ่นโดยทั่วไป พวกเขาไม่มีการศึกษา มีแต่ภาษาพูดที่ใช้สื่อสารกันแต่ไม่มีภาษาเขียน พวกเขาหาเลี้ยงชีพด้วยการทำการเกษตรในช่วงที่มีฤดูอบอุ่น ล่าสัตว์และหาปลา
แม้ว่าชนเผ่าไอนุจะไม่เป็นที่ยอมรับและบางครั้งถึงกับโดนดูถูกจากชาวญี่ปุ่นด้วยเหตุผลที่ว่ามีวัฒนธรรมประเพณีที่ล้าหลังและงมงาย แต่ชาวไอนุก็ยังคงสืบทอดวัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิมไว้ ที่เป็นเอกลักษณ์แสดงให้เห็นถึงความเป็นชนเผ่าไอนุที่สุดก็คือ การสักปาก โดยจะกระทำเฉพาะผู้ที่เป็นหญิงเท่านั้น เด็กหญิงเมื่ออายุครบ 12 ปีบริบูรณ์จะต้องได้รับการสักเป็นสัญลักษณ์รอบปาก ลักษณะรอยสักนั้นจะคล้ายกับหนวดของผู้ชาย คือเหนือริมฝีปากบนและแผ่ออกด้านข้างเลยไปยังริมฝีปากล่าง โดยใช้เปลือกและยางไม้บดแล้วพอกบริเวณที่จะสัก จากนั้นจึงใช้ไม้แหลมหรือโลหะแหลมจิ้มตามรอยที่ต้องการเพื่อให้สีซึมลงไป เมื่อสักเสร็จสิ้นก็จะได้รอยสักมีสีออกน้ำเงินเข้มที่หญิงชนเผ่าไอนุภาคภูมิใจ เพราะเชื่อว่าจะสามารถขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปจากร่างกายได้ด้วย และเมื่อสักได้ครบสามปีจะถือว่าเด็กหญิงเหล่านี้เป็นหญิงสาวเต็มตัวและพร้อมที่จะแต่งงานออกเรือนได้
นอกจากนั้นยังมีพิธีกรรมสำคัญของชาวชนเผ่าไอนุ นั่นก็คือพิธีการส่งวิญญาณสัตว์ที่ตายไปให้ขึ้นสู่สวรรค์ โดยจะมีการใช้หมีหรือนกฮูกในการบูชายัญที่พวกเขาเชื่อว่า มันจะเป็นตัวแทนที่ส่งข้อความไปยังสวรรค์ได้ พิธีการนี้จะจัดขึ้นในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ของทุกปี
ปัจจุบันพิธีกรรมการสักปากของชนเผ่าไอนุได้ถูกรัฐบาลใช้ข้อบังคับให้ยกเลิกไปเสียเพราะถือว่าเป็นการทารุณแสดงถึงความโหดเหี้ยม แต่ชาวไอนุเหล่านี้ก็ยังคงรักษาวัฒนธรรมประเพณีหลายอย่างที่บรรพบุรุษของเขาเคยสอนและกระทำสืบเนื่องมาแต่โบราณ แม้โลกจะหมุนไปไกลเพียงใดแต่จิตวิญญาณความเป็นชนเผ่าไอนุยังคงอยู่อย่างแท้จริง